จากกรณีที่หน่วยป้องกันและปรามปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทะเลกระบี่ จับกุมเรือประมงปลากระตัก 3 ลำ พร้อมคนในเรือ 12 คน ขณะทำประมงอยู่บริเวณเกาะเละละ ข้อหาร่วมกันใช้เครื่องมืออวนครอบปลากระตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ชาวประมงนำเรือประมงของตัวเองมาปิดร่องน้ำปากคลองปากบารา เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่
ซึ่งล่าสุดมีเรือประมงมาจอดปิดร่องน้ำเพิ่มเป็น 18 ลำแล้ว และมีทยอยมาเพิ่มเรื่อยๆ โดยผู้เรียกร้องต้องการให้ผู้รับผิดชอบมาเจรจา หากยังนิ่งเฉยก็ยืนยันจะนำเรือมาปิดปากคลองเพิ่มมาขึ้นเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่
โดยนายวรวิทย์ ชาวบ้านอำเภอละงู เปิดเผยว่า การปิดร่องน้ำปากน้ำบาราโดยเรือประมงครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหาแนวทางแก้ไขเรื่องพื้นที่ทำประมงตาม พ.ร.บ. ฉบับใหม่ และพื้นที่ทับซ้อนของอุทยานฯ ตะรุเตา
“เขตมันซ้ำซ้อนมาตลอด ไม่ได้เป็นที่ ความแน่ชัดนั้นว่าตรงไหนของอุทยาน ตรงไหนของประมง ถึงต้องการพบกับ วราวุธ ศิลปอาชา อย่างเดียว ไม่มีเรื่องกับประมง กับชาวบ้าน กับภูธร อะไรไม่มีเลย นับถือกรมประมงมาตลอด ไม่สามารถมีที่ทำกินได้ หมดที่ทำกินแล้ว”
กรมประมง แนะเคล็ดลับ “สายมู” ทำบุญปล่อยสัตว์น้ำไม่ทำลายระบบนิเวศ
เลือกตั้ง 2566 : “เพื่อชาติ” ลุยภาคใต้ ชูนโยบายแก้ปัญหาประมง ราคาสินค้าเกษตร คำพูดจาก สล็อต777
ชาวบ้านจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยลดหย่อนพื้นที่การทำประมงของชาวประมงพื้นบ้านที่มีขนาดไม่เกิน 10 ตันกรอส จนกว่าจะหาแนวทางร่วมกันอย่างยั่งยืนได้
นอกจากนี้ยังฝากถามถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยว่า MOU ที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่มี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล เป็นประธาน นั้นยังมีผลอยู่หรือไม่ และกรณีที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ เข้าจับกุมเรือประมงชาวบ้านเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่ทราบข้อมูล MOU นั้น เมื่อทราบเรื่อง MOU แล้ว เจ้าหน้าที่จะนำไปถือปฏิบัติหรือไม่ หากไม่ได้รับคำตอบก็จะปักหลักปิดปากคลองปากบาราต่อไป