นายเย็นส์ โพลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด กล่าว่า การสำรวจ Top 50 Companies in Thailand เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2560 โดยผลสำรวจได้รับการยอมรับจากทั้งทางองค์กรธุรกิจทั้งของประเทศไทย และต่างชาติ ผู้นำองค์กร ผู้บริหารระดับสูง เหล่าคนทำงานมืออาชีพ และจากฝั่งผู้ที่กำลังมองหางาน รวมถึงนิสิตนักศึกษาจากทั่วประเทศ ว่าเป็นการเสนอชื่อองค์กรที่น่าทำงานของคนรุ่นใหม่ที่น่าเชื่อถือที่สุด
สำหรับไฮไลต์ของงานในปีนี้ นอกจากการมอบรางวัลให้กับ 50 องค์กรที่ได้รับการโหวตสูงสุดแล้ว ทาง WorkVenture ยังได้เปิดเวทีเสวนา วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางความคิดและการรับรู้ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยยกระดับองค์กรให้กลายเป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่สนใจเข้าทำงานด้วยมากที่สุด โดย คุณจีรวัฒน์ ตั้งบวรพิเชฐ Head of Employer Branding/ที่ปรึกษาอาวุโสทางด้านการสร้างแบรนด์นายจ้าง จาก WorkVenture
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายบริษัทต้องเผชิญความท้าทายมากขึ้นในการสรรหาบุคลากรในตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ด้านการตลาด วิศวกรรม การเงิน ฯลฯ เนื่องจากพนักงานระดับ Top Talent มีทางเลือกมากมาย ในการเลือกทำงานกับบริษัทที่น่าสนใจ และให้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้มากกว่า นำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Talent War” ซึ่งในปีที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ยื่นข้อเสนอสู้ (counter offers) อย่างรุนแรงเพื่อดึงดูดทาเลนต์ให้อยู่กับองค์กรต่อไป
บริษัทต่างๆ มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นเพื่อดึงดูดพนักงานที่มีทักษะระดับสูง และเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์นายจ้าง (Employer Branding) ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มการรับรู้ของบริษัทให้สามารถเข้าถึงกลุ่ม Talent ได้มากยิ่งขึ้น ในฐานะนายจ้างที่น่าร่วมงานด้วย สามารถมอบปัจจัยที่สมดุลทั้ง 4 ได้แก่ ผลตอบแทนและความก้าวหน้า ผู้คนในองค์กรและวัฒนธรรม ลักษณะงานและการทำงาน สุดท้ายคือภาพลักษณ์ขององค์กร รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายให้กับพนักงานได้ ทั้งเรื่องธรรมาภิบาล ความยั่งยืน การทำงานที่มีความหมายต่อชีวิต Work/life Balance ความมั่นคงในอาชีพ และความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของทาเลนต์ในการเลือกที่จะเข้าทำงานและเติบโตต่อไปกับบริษัทนั้น ๆ
การดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถนั้น ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาในการสรรหาบุคลากรเท่านั้น แต่ในระยะยาว สิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินความอยู่รอดและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทที่จะมีพนักงานที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะมาขับเคลื่อนองค์กร พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่น่าดึงดูดให้กับลูกค้าได้ อีกทั้งมีความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทคู่แข่ง ดังนั้นในบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งจึงเล็งเห็นความสำคัญของ Employer Branding ควบคู่ไปกับ Corporate Branding เพื่อสร้างกลยุทธ์การพัฒนาของบริษัทอย่างยั่งยืน เพราะ Employer Branding ที่แข็งแกร่งไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เติบโต และก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนในการสรรหาบุคลากรอีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้สมัครงาน WorkVenture มีคำแนะนำว่า ทุกวันนี้การค้นหาข้อมูลองค์กรไม่ใช่เรื่องยาก เพราะนายจ้างหันมาสร้างแบรนด์กันมากขึ้น สิ่งที่สำคัญมากกว่าตำแหน่งงาน ขอบเขตการทำงาน และลักษณะการประกอบธุรกิจ รวมไปถึงผลตอบแทนและสวัสดิการแล้ว ข้อมูลและเรื่องราวของชีวิตการทำงานจริงในองค์กรนั้น จะช่วยให้ผู้สมัครตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นว่าที่นี่จะเป็นที่ทำงานที่ตอบโจทย์หรือไม่ วัฒนธรรมการทำงาน ผู้คน สังคม ตรงกับสไตล์ของผู้สมัครเพียงใด เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่ทำงานที่ ‘ตรงใจ’ และ ‘ใช่’ มากที่สุด
ส่วนคำแนะนำสำหรับนายจ้าง ยิ่งสื่อสารตัวตนและเรื่องราวขององค์กรที่เน้นถึงประสบการณ์อันยอดเยี่ยมกับกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ การจดจำและความผูกพันเชื่อมโยงกับแบรนด์ก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ยั่งยืนสำหรับองค์กร คือ การนำเสนอว่าคุณค่าของการได้มาร่วมงานกับที่นี่พิเศษอย่างไร บอกเล่าเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะประกาศรับสมัครงานตำแหน่งใด สายงานไหน องค์กรที่อยู่ในใจผู้สมัครย่อมได้การตอบรับจากทาเลนต์คุณภาพมากกว่าองค์กรที่ไม่ได้สร้างแบรนด์ให้แข็งแรง
สำหรับ Top 50 Companies in Thailand 2024 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2567 บริษัทไหนที่ครองใจคนทำงานรุ่นใหม่มากที่สุดในช่วงเวลานี้? ตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย
อันดับ 1 | Google : กูเกิล
ไม่แปลกใจเลยที่ Google ยังคงขึ้นแท่นอันดับหนึ่งบริษัทที่คนเก่งอยากร่วมงานมากที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่ 6! เพราะการได้เป็นพนักงานที่นี่นอกจากความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ล้วนสร้างความสุข และเติมเต็มชีวิตของทุกคนทั่วโลกแล้ว Google ยังมีสวัสดิการสุดว้าวที่กล้าพูดได้เลยว่าให้มากกว่า และไม่เหมือนใครในแบบของตัวเองตั้งแต่คุณก้าวเดินออกจากบ้านมาจนถึงบริษัทเลยทีเดียว ทั้ง รถรับ-ส่งพนักงานจากย่านที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานและประชุมอย่างครบครัน! อาหารฟรี 3 มื้อ แบบครบหมู่ ไม่จำเจ และที่สำคัญอร่อย! นโยบาย 20 Percent Time ให้พนักงานใช้เวลาทำงาน 20% ไปคิดสร้างสรรค์ โปรเจกต์ที่สร้างประโยชน์ให้กับ Google มากที่สุด นอกจากนั้นยังมี แพทย์ประจำบริษัท ช่างตัดผม ห้องนอนพัก อุปกรณ์/โต๊ะทำงานสุดไฮเทค และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกอย่างผ่านการคำนวณมาแล้วว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้
นอกจากสวัสดิการแล้ว ที่น่าสนใจอีกอย่างสำหรับใครที่อยาก Upskill เร็ว ๆ ก็คือ เมื่อคุณได้เป็นพนักงานที่นี่ ก็เท่ากับว่าคุณได้ติด ‘ป้ายคนเก่ง’ ทันที เพราะ Google มีชื่อเสียงในเรื่องของการดึงเอาคนระดับหัวกะทิจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่! เมื่อถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมงานเจ๋ง ๆ ความสามารถของคุณก็จะได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่นอน
อันดับ 2 | PTT : ปตท.
องค์กรยักษ์ใหญ่ที่ทุกคนในไทยต้องรู้จักอย่างแน่นอนอย่าง ปตท. บริษัทพลังงานแห่งชาติที่เป็นรากฐานความมั่งคั่งและยั่งยืนของประเทศไทยมายาวนานกว่า 40 ปี นอกจากความมีชื่อเสียงแล้ว ปตท. ยังเป็นบริษัทที่โดดเด่นทั้งเรื่องค่าตอบแทนที่คุ้มค่าและการทุ่มเทงบประมาณไปกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง โดยตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา ปตท. ได้ปรับกลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ Fit in กับพนักงานส่วนใหญ่ที่เป็น Gen Y และ Gen Z โดยชู S-P-R-I-R-I-T เป็นค่านิยมหลักขององค์กร เน้นวัฒนธรรมองค์กรไปที่การทำงานร่วมกันแบบพี่น้อง และการเปิดใจยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้ไม่มีปัญหาระหว่างคนต่างเจน และที่สำคัญ ปตท. ยังเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ ‘ส่งเสริมความหลากหลายในกลุ่มพนักงาน’ ให้ความเท่าเทียมกับทุกเพศ ทุกวัย อายุ ภูมิลำเนา ฯลฯ โดยมองที่ความสามารถเป็นหลักอย่างไม่มีปิดกั้น รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถโยกย้ายสายงานภายในบริษัทได้ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้เติบโตและได้ทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง จึงไม่แปลกใจเลยที่คนรุ่นใหม่ยกให้ ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เป็นบริษัทไทยที่พวกเขาอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด
อันดับ 3 | SCG : เอสซีจี
ปีนี้ SCG ก็ยังคงได้คะแนนความนิยมอย่างต่อเนื่อง และล้นหลามจากบรรดาเหล่าคนทำงานและคนรุ่นใหม่เพราะไม่เพียงแค่ธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย SCG ยังขึ้นชื่อว่า มีสวัสดิการที่ครองใจคนรุ่นใหม่มากที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะสวัสดิการที่ไม่เหมือนใครอย่าง Flexible Benefits คือ ให้พนักงานทุกคนสามารถจัดสรรงบสวัสดิการตามความต้องการของตนเองได้ เช่น พนักงาน Gen Z ที่มี Passion ในการท่องเที่ยว ก็สามารถแบ่งงบจากส่วนที่เกี่ยวกับสุขภาพไปใช้ในสวัสดิการที่ซัพพอร์ตการท่องเที่ยวแทนได้ และอีกสวัสดิการสุดพีคอย่าง Health Care & Health Club คือ พนักงานสามารถใช้ facilities ที่บริษัทมอบให้ ทั้ง fitness center แบบพรีเมียม คอร์ตแบดมินตัน สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล สนามกอล์ฟจำลอง รวมถึง Class ออกกำลังกายหลังเลิกงานต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น โยคะ HIIT ซุมบ้า มวยไทย อื่น ๆ อีกมากมาย และพนักงานทุกคนยังได้รับชั่วโมงเพื่อไปพัฒนาตัวเองกว่า 155 ชั่วโมงต่อปี นอกจากนี้ SCG ยังมอบทุนการศึกษาให้กับพนักงานที่รักการเรียนไป Take Course กับ Top 10 University ระดับโลกทุกปีด้วยนะ มากไปกว่านั้น SCG ยังมีทุนให้คนภายนอกอีกด้วย เอาเป็นว่าที่เกริ่นมานี่ยังไม่ถึง 10% ของสวัสดิการจาก SCG เลยล่ะ! กล้าจัดเต็มให้พนักงานแบบจุก ๆ ขนาดนี้ เชื่อแล้วว่าทำไมถึงไม่เคยหลุดโผบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดเลย
อันดับ 4 | Agoda : อโกด้า
องค์กระดับโลก ผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มจองที่พัก ท่องเที่ยว และตั๋วเครื่องบินแบบครบวงจรอย่าง Agoda ไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ในปีนี้ และยังคงเป็นขวัญใจชาวออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ที่สามารถให้เงินเดือนและสวัสดิการได้เทียบเท่ากับการไปทำงานที่ต่างประเทศขอแค่คุณเก่งจริง! ซึ่งนอกจากเรื่องของค่าตอบแทนแล้ว สิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่อยากเข้าไปเริ่มต้นชีวิตการทำงานในองค์กรระดับโลกแห่งนี้กันสุด ๆ ก็คือ ที่นี่เปิดโอกาสให้เด็กจบใหม่ได้ลงมือทำจริงในโปรเจกต์ใหญ่ ๆ เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีในช่วงเริ่มทำงาน อีกทั้งยังจะได้เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานเก่ง ๆ จากกว่า 90 สัญชาติทั่วโลก ในออฟฟิศที่ใหญ่ที่สุดของอโกด้าใจกลางกรุงเทพฯ และที่สำคัญการทำงานที่ Agoda นั้นยืดหยุ่นแบบสุด ๆ เพราะพนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ 3 วันต่อสัปดาห์ ที่ไหนก็ได้ 30 วันต่อปี และมีวันหยุดเริ่มต้นมากถึง 15 วันต่อปี พร้อมส่วนลดที่พักมากมายเมื่อเข้าพักในโรงแรมที่เป็นพาร์ตเนอร์ บอกเลยว่า พนักงานรุ่นใหม่สายท่องเที่ยวพลาดไม่ได้เลยนะ สำหรับสวัสดิการที่โดนใจแบบนี้
อันดับ 5 | Unilever : ยูนิลีเวอร์
Unilever เป็นที่รู้จักดีจากการเป็นผู้ผลิตของใช้ในชีวิตประจำวันมากมายยาวนานกว่า 90 ปี นอกจากธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืนแล้ว ยังเป็นที่รู้กันดีในหมู่คนทำงานว่า ‘ที่นี่มุ่งรักษาพนักงานให้ทำงานอยู่นาน ๆ’ โดยมีวัฒนธรรมการทำงานที่สนับสนุนพนักงานในทุกด้าน ทั้งรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน เช่น ให้พนักงานเข้าทำงานเพียง 2 วัน/สัปดาห์ นอกนั้นสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ตามอัธยาศัย และงดการประชุมทุกวันศุกร์ เพื่อให้พนักงานรีบเคลียร์งานก่อนถึงวันหยุด ถ้าวันไหนมาทำงานที่ออฟฟิศก็ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนให้ได้ผ่อนคลายทุกช่วงเวลาที่ต้องการ ทั้งคาเฟ่ และห้องออกกำลังกาย เป็นต้น
Unilever จึงเป็นองค์กรระดับโลกที่ใส่ใจทั้งสุขภาพกายและใจของพนักงานอย่างดีที่สุด นอกจากนั้น ยังสนับสนุนเรื่องการเรียนภาษาที่ 2, 3 และ 4 ตามแต่ความสนใจของพนักงาน และให้พนักงานสามารถเติบโต ย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่ Unilever ทั่วโลกได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เรียกได้ว่า สวัสดิการที่นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกใจคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
อันดับ 6 | LINE : ไลน์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า LINE เป็นแอปพลิเคชันการสื่อสารที่ครองใจคนไทยมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะทุก ๆ วันเราต้องเปิดใช้แอปพลิเคชันนี้ อย่างน้อย 1 ครั้งอย่างแน่นอน ด้วยความฮอตของ LINE จึงทำให้คนรุ่นใหม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบที่ตัวเองชอบและใช้งานอยู่ ที่นี่จึงเป็นองค์กรแรก ๆ ที่เหล่าคน Gen Z อยากร่วมงานด้วย แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะ LINE ยังมีสวัสดิการที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายให้คนรุ่นใหม่กด Love ทั้งวัฒนธรรมองค์กรสุดชิคที่ให้อิสระทางความคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมของออฟฟิศสุดโคซี่ อบอุ่น น่ารัก แถมเดินทางสะดวก มีสวัสดิการสุดว้าวมากมาย เช่น ข้าวเช้าและข้าวกลางวันฟรี! นวดฟรี 15 นาที ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร เงินขวัญถุง 20,000 บาทสำหรับการแต่งงาน และพนักงานผู้ชายคนใดที่มีบุตร ก็สามารถใช้สิทธิลาคลอดไปดูแลภรรยาได้อีกด้วยนะ โอ้โห … เข้าใจคนเจนใหม่ขนาดนี้ ไม่ให้ติดอันดับความนิยมยังไงไหว
อันดับ 7 | Toyota Motor : โตโยต้า มอเตอร์
ที่นี่ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจทำงานในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะ Toyota Motor มีวิธีการทำงานที่สามารถผลักดันให้พนักงานเก่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว! โดยโตโยต้าขึ้นชื่อเรื่องการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน และมีแบบแผนแต่ก็เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็นและเสนอไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากเรื่องสไตล์การทำงาน Toyota Motor ยังคงรักษามาตรฐานในเรื่องของ ‘โบนัส’ ที่สูงกว่าบริษัทอื่น ๆ เอาไว้ได้จากยอดขายและความนิยมในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน
Toyota Motor จึงเหมาะจะเป็น ‘ที่ทำงานที่แรก’ ของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้าไปพัฒนาตัวเองกับองค์กรที่มีแบบแผนการทำงานเป็นมาตรฐานและมีชื่อเสียงระดับโลก นอกจากสวัสดิการที่ครอบคลุมตั้งแต่ตัวพนักงานไปจนถึงครอบครัวแล้ว ที่นี่ยังสนับสนุนค่าเรียนภาษาและค่าเรียนปริญญาโทด้วย บอกเลยว่า ทำงานที่นี่คุณจะได้อัปเวลแบบเร็วสุด ๆ!
อันดับ 8 | ThaiBev : ไทยเบฟ
คนรุ่นใหม่ทั้งไทยและเทศเทใจให้ไม่หยุดกับไทยเบฟ ที่นอกจากจะเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และร้านอาหารชื่อดังมากมายแล้ว ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นองค์กรแห่งความหลากหลาย ที่เปิดรับบุคลากรอย่างไม่จำกัดเพศ อายุ สัญชาติ ศาสนา โดยมอบ “โอกาสไร้ขีดจำกัด” ให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้ลงมือทำงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อม ปรับตัวสู่การทำงานในอนาคต ปัจจุบันไทยเบฟมีอัตราส่วนพนักงานเป็น Gen Z มากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นองค์กรของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง และยังมีโปรแกรมพัฒนาการเรียนรู้ของพนักงานอยู่ตลอดเวลา เรียกว่า ข้อเสนอปังสุด ๆ แบบที่คนรุ่นใหม่มองข้ามไม่ได้เลยล่ะ!
อันดับ 9 | Mitr Phol : มิตรผล
ยังคงยืนหนึ่งอยู่ในใจคนทำงานได้อย่างเหนียวแน่น สำหรับมิตรผล บริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมน้ำตาลและ Bio-based เป็นที่รู้กันดีว่าทำงานที่นี่คุณจะเก่งขึ้น เติบโตขึ้นในทุก ๆ ด้าน เพราะมิตรผลเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง จนทำให้ติดอันดับ Top 10 ของ 50 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดมาถึง 3 ปีซ้อนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! การทำงานที่มิตรผลจะเน้นให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการทำงานที่ท้าทาย สนับสนุนให้โอกาสในการแสดงฝีมือลงมือทำในโปรเจกต์ที่ต่อยอดได้จริงเพื่อผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงช่วยวาง Career ให้กับพนักงานในองค์กรจนมั่นใจว่าสามารถเติบโตได้ในธุรกิจที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจัดสวัสดิการที่ดูแลสุขภาพทั้งพนักงานและครอบครัวให้อุ่นใจในการทำงาน วันลาพิเศษที่ตอบโจทย์คนทำงานในทุกช่วงวัย รวมถึงเปิดให้พนักงานสามารถเลือกเวลาเข้างานเพื่อ Balance ชีวิตได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย! นี่สิ…ถึงได้ใจคนรุ่นใหม่ไปเต็ม ๆ
อันดับ 10 | Bangchak : บางจาก
บางจาก ยังคงติดอันดับ ‘บริษัทมหาชนด้านพลังงานสัญชาติไทย’ ที่เป็นที่สนใจของพนักงานรุ่นใหม่มาอย่างยาวนานต่อเนื่องกันหลายปี เพราะนอกจากมีชื่อเสียงแล้ว ที่นี่โดดเด่นด้านการนําเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้สนับสนุนการทํางานให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีที่ช่วยลดกระบวนการและร่นเวลาการทำงานลงเท่านั้นที่ทำให้บางจากน่าสนใจ ที่นี่ยังมุ่งพัฒนาศักยภาพพนักงานรอบด้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น มีหลักสูตรอบรมหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการพนักงานทุก Generation การเปิดให้ขอทุนการศึกษา การให้พื้นที่แสดงความสามารถ การเปิดโอกาสให้คนภายในโยกย้ายสายงานก่อน ก็ล้วนเป็นสวัสดิการที่ส่งเสริมให้พนักงานเติบโตและสร้างผลงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ บางจากยังผลักดันสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ให้สร้างสรรค์นวัตกรรมเข้าสู่สังคม ควบคู่ไปกับนโยบาย Greenovation (Green + Innovation) สร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียวเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย เรียกได้ว่าทำงานที่นี่ได้ครบคุ้มทุกด้านจริง ๆ ทั้งเงินเดือน สวัสดิการ ความรู้ และการคืนคุณค่าให้แก่สังคม
ส่วนองค์กรที่ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 1-50 สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
https://www.workventure.com/top50-companies-2024